Actions

Work Header

Rating:
Archive Warning:
Category:
Fandom:
Relationship:
Characters:
Additional Tags:
Language:
ไทย
Stats:
Published:
2018-08-06
Updated:
2018-08-23
Words:
14,201
Chapters:
3/?
Comments:
8
Kudos:
10
Hits:
212

Blue Bird

Summary:

First DBH fanfic of mine. อยากเขียนอะไรชิลๆบ้าง...

Chapter Text

01

 

 

กาวิน รี้ด เกลียดแอนดรอยด์

นั่นเป็นเรื่องที่จริงแท้แน่นอน

ครั้งแรกที่เขาเห็นหุ่นแอนดรอยด์ที่ถูกส่งมาจากไซเบอร์ไลฟ์เพื่อเป็นผู้ช่วยของหมวดแฮงค์ แอนเดอร์สัน.....เขาเกลียดมันทันที...

พวกมันมาเพื่อแย่งงานคนอย่างเราๆ คือความคิดของกาวินที่มีต่อแอนดรอยส์ในที่ทำงานขณะที่เขายืนมองมันผ่านกระจกห้องสอบปากคำ มันกำลังพยายามทำให้ผู้ต้องหาที่ฆ่าเจ้านายมนุษย์ยอมรับสารภาพ

ในที่สุดเจ้าแอนดรอยด์ฆาตรกรนั่นก็ยอมรับสารภาพ แฮงค์ยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจในผลลัพธ์  ส่วนกาวิน...แม้จะพอใจในผลลัพธ์ แต่ไม่อยากแสดงออกเท่าไหร่นัก

เขากับคริสเดินเข้าไปในห้องสอบปากคำเพื่อที่จะรับช่วงต่อพาเจ้าหุ่นฆาตรกรไปยังห้องขัง แต่เจ้าหุ่นบื้อนั่นดันไม่ยอมขยับเขยื้อนและไม่ยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดี

“คุณไม่ควรแตะต้องมันนะครับ” คอนเนอร์รีบห้ามเมื่อเห็นว่าระดับความเครียดของแอนดรอยด์ฆาตรกรกำลังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆระหว่างที่ถูกคริสพยายามคุมตัว “มันจะทำลายตัวเองหากถูกคุกคาม”

“เฉยเหอะน่า แอนดรอยด์อย่างแกไม่ต้องมาบอกว่าฉันควรทำยังไงหรอก เข้าใจ๋?” กาวินสวน

“คุณไม่เข้าใจ หากมันทำลายตัวเอง เราจะไม่ได้อะไรเลย” คอนเนอร์ไม่ยอมแพ้

“หุบปากซะ” กาวินน้ำเสียงเริ่มเครียด “คริส จะพามันมาด้วยหรือว่าอะไรวะ?”

“ก็พยายามอยู่เนี่ย” คริสตอบระหว่างพยายามดึงให้ฆาตรกรลุกขึ้นยืน แต่มันลำบากเหลือเกินเพราะอีกฝ่ายไม่ยอมให้เขาแตะตัวท่าเดียว

“ผมปล่อยให้พวกคุณทำแบบนั้นไม่ได้ อย่ายุ่งกับเขา!” ในที่สุดคอนเนอร์เป็นฝ่ายทนไม่ได้และเข้ามาคั่นกลางระหว่างคริสกับหุ่นฆาตรกร

เป็นจังหวะเดียวกันกับที่กาวินยกปืนขึ้นจ่อหน้าแอนดรอยด์นักสืบ “ฉันเตือนแกแล้วนะ ไอ้หอกหัก!”

“พอได้แล้ว” แฮงค์พูดขัดขึ้น

“อย่ามายุ่งน่า แฮงค์”

“ก็บอกว่าให้พอได้แล้วยังไงล่ะโว้ย” แฮงค์ยกปืนขึ้นบ้าง ...และเล็งมาที่เขา

กาวินเหลือบมองปืนในมือผู้หมวด นี่แอนเดอร์สันคิดจะยิงเขาเพื่อเจ้าหุ่นพวกนี้จริงๆน่ะเหรอ? จากนั้นหันกลับไปมองคอนเนอร์ เขาขบเขี้ยวฟันก่อนจะสบถ “แม่งเอ้ย” และยอมลดปืนลงโดยที่ไม่ลืมหันไปชี้หน้าเพื่อนร่วมงานที่สูงวัยกว่า “ฉันไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปเฉยๆแน่”

ดวงตาสีเขียวของกาวินตวัดกลับไปมองดวงตาโตสีน้ำตาลของคอนเนอร์อย่างไม่สบอารมณ์ แบบนี้ก็เท่ากับว่าเขาเป็นฝ่ายผิดงั้นเหรอ? นี่มันโคตร...

“เชี่ย!” เขาสบถทิ้งท้าย ก่อนจะเดินจากมา...

 

 

ตำรวจนักสืบหนุ่มอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่านเป็นที่สุด เขาก้าวยาวๆพาตัวเองออกไปรับอากาศนอกอาคารไวที่สุดเท่าที่สมองเขาจะสั่งการ หากเป็นแบบนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆมีหวังเขาได้โมโหจนเส้นเลือดสมองแตกตายเข้าสักวันแน่ๆ

ให้ตายสิ ทำไมเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ?  

กาวินเดินวนไปมาอยู่หน้าสน.อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพาตัวเองไปยังบริเวณที่จอดรถ

ระบาย...เขาต้องการระบายอารมณ์ที่อัดอั้นนี้...เดี๋ยวนี้...

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดปลดล็อคหน้าจอ เลื่อนนิ้วเลือกแอปพลิเคชั่นที่เขามักจะใช้เป็นพื้นที่ระบายเรื่องทุกข์ใจหรือเรื่องหงุดหงิด

...บลูเบิร์ด...แอปพลิเคชั่นรูปนกสีฟ้ารูปร่างหน้าตาประหลาดที่ไม่รู้ว่ามีที่มาอย่างไรและอยู่มากี่ปีแล้ว ...แต่ใครจะสนกันเล่า?

ทันทีที่ไอคอนรูปดินสอปรากฏขึ้น นักสืบหนุ่มก็จิ้มหน้าจอพิมพ์ข้อความลงไปอย่างรวดเร็วและกดโพสท์ เป็นอันเสร็จพิธีระบายอารมณ์ที่เขามักทำประจำเวลาอยู่ในที่ทำงาน

@GR1007 : ให้ตายสิ กูเกลียดมัน! เกลียดมันฉิบหายเลย ไอ้เวร! หากคราวหน้ายังเสนอหน้ามาขัดขวางอีกละก็ยิงทิ้งซะเลยดีมั้ยวะ?

เขามองข้อความที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ ตรวจดูเพื่อความแน่ใจว่ามันจะไม่ได้เจาะจงหมายถึงใครโดยตรง ก่อนจะระบายลมออกทางจมูก แค่นยิ้มเล็กน้อย ยัดโทรศัพท์มือถือลงในกระเป๋ากางเกงตามเดิมและเดินออกจากที่จอดรถ เขาควรจะไปหาอะไรกินเสียหน่อย อาหารดีๆสักมื้อ ดื่มอะไรหวานๆคลายเครียดสักแก้วแล้วค่อยกลับไปนั่งสงบสติเพื่อทำงานต่อจะดีกว่า...

 

TBC...

 

 

Chapter Text

 

 

 

 

6.30 am.

กาวินมาทำงานแต่เช้าในสภาพสะลึมสะลือเล็กน้อย...โอเค ไม่น้อยหรอก แต่ง่วงพอควรเลยล่ะ เพราะเมื่อตอนตี4เขาได้รับแจ้งเหตุฆาตรกรรมในระแวกที่อยู่อาศัยของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากนั้นก็ไม่มีอารมณ์จะนอนหลับต่อจึงตรงดิ่งมาที่สน.เสียเลย แม้แต่อาหารเช้าก็ไม่ได้แตะ

เอาวะ แค่กาแฟกับขนมนิดหน่อยรองท้องไปก่อนก็ยังดี...

ไวเท่าความคิด กาวินพาตัวเองไปยังบริเวณจุดบริการน้ำและขนมสำหรับเจ้าหน้าที่ เขาเห็นจนท.ทีน่า เชนกำลังยืนจิบกาแฟไปพลางดูข่าวบนจอที่ผนังห้องไปพลาง

“อรุณสวัสดิ์ รี้ด” เธอทักทาย

“สวัสดี ทีน่า” เขาทักตอบพร้อมกับเอามือป้องปากเพื่อหาว

“นอนไม่พอสินะ” ทีน่ายิ้ม “ฉันเดาว่านายยังคงไม่ได้กินอะไรมาอีกตามเดิม” เธอโบกถุงโดนัทที่นำมาด้วย “ซักหน่อยมั้ย?”

“ดีเลย” กาวินยิ้มให้หล่อน จากนั้นเดินไปชงกาแฟแล้วนำมันกลับมาวางบนโต๊ะเดียวกับทีน่า ล้วงมือลงไปในถุงกระดาษเพื่อหยิบโดนัทเคลือบน้ำตาลชิ้นหนึ่งออกมากิน

รอดตายไปอีกหนึ่งมื้อ

เขายืนคุยกับทีน่าเรื่องคดีฆาตรกรรมล่าสุดแถวบ้านที่เขาเพิ่งไปเก็บข้อมูลในที่เกิดเหตุมาได้หมาดๆอยู่จนกระทั่งคอนเนอร์เดินเข้ามาในห้องและเหมือนกำลังมองหาอะไรอยู่

กาวินแค่หัวเราะ “แม่ง...ดูนั่นสิ เพื่อนพลาสติกของเรามาแล้ว”

ทีน่าหันไปมองตามก็เห็นแอนดรอยด์ที่ไซเบอร์ไลฟ์ส่งมาช่วยงานที่สน.ยืนอยู่

“ยินดีด้วยนะสำหรับเมื่อคืน มันน่าประทับใจมาก” กาวินแสร้งปรบมือให้ และคอนเนอร์ก็หันมาทางเขา

“สวัสดีครับ นักสืบรี้ด” แอนดรอยด์ทักด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่เป็นมิตร

แกล้งซะหน่อยดีกว่า แก้เซ็ง... กาวินเคาะนิ้วกับโต๊ะ สืบเท้าเข้าหาแอนดรอยด์ “จะว่าไป ฉันไม่เคยเห็นหุ่นแบบนายมาก่อนเลย รุ่นอะไรน่ะเรา?”

“RK800ครับ ผมเป็นหุ่นต้นแบบ” คอนเนอร์ตอบ

“หุ่นต้นแบบ” นักสืบหนุ่มแสร้งประทับใจ ก่อนจะหันไปหาเพื่อนร่วมกรมที่อยู่ในห้อง “ดูนี่สิ แอนดรอยด์สืบสวนเชียวนะ”

ทีน่ายิ้มขำ

“เฮ้ ชงกาแฟให้ฉันหน่อยสิ ไอ้หน้าจิ้มขี้” กาวินหันไปสั่งคอนเนอร์ โฮ่...ไอ้หน้าจิ้มขี้งั้นเหรอ? ตรูคิดได้ไงวะ?

คอนเนอร์เอียงคอมองเขาเหมือนไม่เข้าใจคำสั่ง

“เร็วๆสิ!” กาวินเร่ง เห็นอีกฝ่ายทำหน้าเด๋อใส่แล้วอยากจะต่อยตามันจริงๆ

คอนเนอร์ยืนนิ่งอยู่ไม่กี่วิ ก่อนจะเดินไปที่เครื่องชงกาแฟแล้วเริ่มชงกาแฟ

เฮ้ย มันยอมทำตามสั่งด้วยแฮะ...

เขายืนมองอีกฝ่ายที่เดินกลับมาหาเขาพร้อมถ้วยกาแฟในมือและยื่นมาให้

ทำไมต้องเดินมาซะใกล้ขนาดนี้วะ? กาวินจ้องดวงตาสีน้ำตาลกลมโตบนใบหน้าเด๋อด๋านั่น เขาปัดมือที่ยื่นถ้วยกาแฟมาเบาๆ “ช่วยอะไรอย่างนะ” จากนั้นจิ้มนิ้วใส่อกของแอนดรอยด์ตรงหน้า “อย่ามาเกะกะทางฉัน”

คอนเนอร์มองตามหลังนักสืบหนุ่มที่เดินจากไปพร้อมกับตร.สาวอย่างไม่เข้าใจ มือยังคงถือถ้วยกาแฟอยู่ เขาทำอะไรให้เป็นที่ไม่พอใจอย่างงั้นหรือ?

 

@GR1007 : แหกขี้ตาแต่เช้าเลยเว้ยตรู ง่วงก็ง่วง กินมื้อเช้ายังไม่ทันจะเสร็จดีก็โดนมันขัดอีกจนได้ เลยแกล้งให้ไปชงกาแฟมาให้...แม่งดันไปชงมาให้จริงๆว่ะ แต่ก็ไม่ได้กินหรอกนะ หมดอารมณ์...ว่าแต่ทำไมมันต้องทำหน้าเหมือนหมาหงอยด้วยฟระ? คิดว่าน่ารัก??

กาวินกดโพสท์ข้อความลงในบัญชีบลูเบิร์ดเป็นการระบายสั้นๆก่อนนั่งลงที่โต๊ะและเริ่มทำงาน บัญชีของเขาไม่ได้ติดตามใครหรือเพื่อนคนไหนทั้งนั้นนอกจากบัญชีช่องข่าวด่วนประจำเมืองกับร้านของกินที่ชื่นชอบเท่านั้น และแน่นอนว่าไม่มีใครติดตามเขา เพราะคนส่วนมากคิดว่าเขาไม่เล่นแอปพลิเคชั่นนี้...

ทำงานด้วยโหมดสมองที่แล่นฉิวอย่างไม่ติดขัดไปได้ไม่นานก็ดันปวดท้องหมือนเขื่อนจะแตก  

หลังกัดริมฝีปากล่างอย่างหงุดหงิด กาวินลุกจากโต๊ะและตรงไปยังห้องน้ำ ทำธุระอยู่เงียบๆที่โถปัสวะที่มุมๆหนึ่ง ก่อนจะรู้สึกเหมือนโดนถูกจ้องมองจากด้านหลัง

ไวเท่าความคิด เขาหันขวับไปมองทันที

...และเห็นคอนเนอร์ยืนอยู่ด้านหลังในระยะที่...ใกล้เกินเหตุ...

“ไอ้บ้าเอ๊ย!! แกมายืนทำบ้าอะไรตรงนี้!?” ฉี่หดเลยโว้ย เชี่ย! มายืนระยะเผาขนอะไรตรงนี้ฟระเนี่ย!? เขามั่นใจว่าได้ยินเสียงตนเองสูงกว่าระดับปกติ

“ผมทำอะไรให้คุณไม่พอใจรึเปล่าครับ นักสืบรี้ด” คอนเนอร์ถามพลางเอียงศีรษะเล็กน้อยเหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่างจากใบหน้ามู่ทู่ของอีกฝ่าย

“แล้วต้องมาถามตอนที่ฉันเข้าส้วมด้วยเนี่ยนะ ไอ่หุ่นโรคจิต” ไม่วาย ขอด่าหน่อยเหอะ

“หน้าตาคุณดูไม่สดชื่นเลย”

“งั้นเรอะ?” ทำไมต้องให้แกมาบอกฉันด้วยวะ?

“ผมชงกาแฟให้ใหม่ดีมั้ยครับ?”

“ไม่! ไม่ต้อง! ไม่เอาอะไรทั้งนั้น แต่แกน่ะออกไป!” แม้ปากจะด่า แต่ก็ทำธุระต่อจนเสร็จเรียบร้อยโดยที่ไม่ละสายตาไปจากดวงตาสีน้ำตาลคู่กลมโตนั่น

 “...”

“...”

คอนเนอร์ยังยืนตาแป๋วอยู่ที่เดิม

“ให้ตายสิ!” เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่กระดิก กาวินจึงใช้ไหล่ชนไหล่อีกฝ่ายขณะเดินเลี่ยงมาล้างมือและรีบออกจากห้องน้ำไปอย่างหงุดหงิดโดยมีสายตาของแอนดรอยด์มองตามไปตลอด...

 

“ฉันไปหาออะไรกินก่อนนะ คอนเนอร์” แฮงค์ลุกขึ้นยืนพลางนวดต้นคอ แก่แล้วต้องมานั่งโต๊ะนานๆนี่มันปวดเมื่อยจริงๆ “จะไปด้วยกันมั้ย?”

“ไม่ครับ เชิญคุณไปรับประทานอาหารกลางวันเลยครับ แฮงค์” คอนเนอร์ตอบ “ผมมีรายงานที่ต้องส่งไปยังไซเบอร์ไลฟ์”

“โอเค งั้นเดี๋ยวฉันมา” ชายผมสีดอกเลาร่างหมีคว้าแจ็คเก็ตและก้าวเดินผ่านโต๊ะไป

“กินอาหารที่มีไฟเบอร์สูงๆหน่อยนะครับ ลดการกินแฮ--”

“ฉันจะกินอะไรมันเรื่องของฉัน แกทำงานของแกไปเหอะ” ว่าแล้วก็เดินจากไป...

แอนดรอยด์กระพริบตาปริบๆอยู่ไม่กี่วินาที จากนั้นเบนสายตาไปยังโต๊ะฝั่งตรงข้าม เขาเห็นกาวินจิ้มๆหน้าจอมือถืออย่างหงุดหงิด ก่อนจะลุกจากโต๊ะ ยัดมือถือใส่กระเป๋ากางเกงและเดินออกไปเพื่อหาอาหารเที่ยงกิน

เมื่อมั่นใจแล้วว่าไม่มีใครแล้ว คอนเนอร์หลับตาลง ไม่นานนัก ข้อความก็เด้งขึ้นมาในความมืด

@GR1007 : ทำไมต้องมายืนมองชาวบ้านเข้าส้วมด้วยวะ โรคจิตชิบหาย...นี่ไอ้บริษัทเฮงซวยนั่นมันสร้างหุ่นอะไรของมันแบบนี้!? กิริยาโรคจิตไม่พอ ยังจะมายืนทำตาแป๋วใส่กันอีก...ขนลุก...

@GR1007 : แต่จะว่าไป...ตามันกลมโตดีจังแฮะ จะว่ามองแล้วอึดอัดก็ใช่...พาลให้ใจอ่อนก็....ใช่มั้ง?? รึว่ามันกำลังทำตัวน่ารักเพื่อที่จะเป็นมิตรกับทุกคน??

@GR1007 : ห่าเหอะ หิวชะมัด ไปหาไรกินดีกว่า...

เขาลอบยิ้มในใจเมื่ออ่านข้อความเหล่านั้นจบ ...แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่า...เขาแฮ็คแอคเค้าท์บลูเบิร์ดของกาวิน...

เห็นนักสืบหนุ่มเอาแต่ชำเลืองมองสลับจิ้มๆกดๆที่จอมือถือบ่อยๆในระหว่างงาน อดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัยอยากรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังให้ความสนใจเรื่องอะไรอยู่ ก็เลยลอบสแกนเสียหน่อยและจ๊ะเอ๋กับแอคเค้าท์นี้นั่นเอง...

เมื่ออ่านโพสท์ต่างๆจบ คอนเนอร์จึงเริ่มส่งรายงานอย่างเป็นงานเป็นการได้เสียที...

 

 

TBC...

 

 

 

 

 

Chapter Text

 

 

กาวินเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อมาถึงสน.ในเช้าวันต่อมาแล้วพบแก้วกาแฟจากร้านชื่อดังกับถุงกระดาษปริศนาสีน้ำตาลที่วางคู่กันเด่นหราอยู่บนโต๊ะทำงานของตน

“เฮ้ แดนนี่” เขาเรียกจนท.คนหนึ่งที่เดินผ่านมาทางนี้พอดี

“ไง รี้ด” แดนนี่ทักตอบ

“นายเห็นมั้ยว่าใครเป็นคนเอาของพวกนี้มาวางบนโต๊ะฉัน?”

ยังไม่ทันที่แดนนี่จะอ้าปากตอบ เสียงหนึ่งก็พูดแทรกขึ้น

“ผมเป็นคนเอามาวางให้เองครับ”

กาวินขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงนั้น ก่อนจะหันกลับไปมองต้นเสียงซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้...คอนเนอร์...

“โฮ่ ดูเหมือนฉันจะไม่ต้องตอบแล้วแฮะ” แดนนี่แค่นหัวเราะ “กินมื้อเช้าให้อร่อยล่ะ” แล้วก็เดินจากไป     

หนึ่งมนุษย์หนึ่งแอนดรอยด์ยืนจ้องตากันในบรรยากาศมาคุ ก่อนที่คอนเนอร์จะคลี่ยิ้มและเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ “อรุณสวัสดิ์ครับ นักสืบรี้ด”

นักสืบหนุ่มเหลือบมองอาหารเช้าบนโต๊ะด้วยหางตา จากนั้นตวัดกลับมามองแอนดรอยด์ตรงหน้า “คิดยังไงถึงเอามาให้? กะวางยาฉันเรอะไง?”

“ผมไม่ทำร้ายมนุษย์หรอกครับ”

คิดไปเองรึเปล่าวะว่ามันกำลังทำสายตาลูกหมาใส่ตรู... กาวินเหลือบมองของกินบนโต๊ะอีกครั้ง

“คุณยังไม่ได้ทานมื้อเช้า รีบกินเถอะครับ เดี๋ยวกาแฟเย็นชืดแล้วจะเสียรสชาตินะครับ” คอนเนอร์ว่า

มาทำเป็นรู้ดีอีกวุ้ย แต่ก็จริงอย่างที่เจ้าหุ่นกระป๋องนี่พูด เพราะเขายังไม่ได้กินมื้อเช้ามาจริงๆ

“ทำเป็นพูดดี” กาวินแค่นหัวเราะ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบถ้วยกาแฟแล้วเปิดฝาออก ไอร้อนลอยขึ้นมาช้าๆ ...กาแฟนี่เพิ่งจะซื้อมาไม่ได้ไม่กี่นาที... เขายกถ้วยขึ้นจิบ ...กลิ่นหอมๆและรสชาติของคาปูชิโน่ทำให้เขาสดชื่นขึ้นทันตา จากนั้นจึงล้วงมือลงไปในถุงสีน้ำตาลเพื่อหยิบอะไรก็ตามที่อยู่ข้างในนั้นออกมา...

...คุกกี้ข้าวโอ้ต...

“เอาของกินมาให้ฉันแบบนี้ พ่อแกไม่น้อยใจแย่เรอะ” กาวินหมายถึงแฮงค์ แม้จะได้มื้อเช้าฟรีแต่ก็ไม่วายขอให้ได้เหน็บแหนมซะหน่อย

“ผู้หมวดแอนเดอร์สันไม่สบายครับ ผมแนะนำให้เขาทานยาและนอนพักผ่อนอยู่ที่บ้าน และเขาไม่ใช่พ่อของผมทางพันธุกรรมครับ” คอนเนอร์อธิบาย

ดูท่าจะไม่เก็ทมุก...ช่างเหอะ... กาวินเคี้ยวคุกกี้ข้าวโอ้ตไม่หยุดปากเพราะว่ามันอร่อยมาก มือข้างที่ว่างโบกปัดในอากาศ “เออๆ ช่างเหอะ”

“...” แอนดรอยด์หน้าหวานได้แต่ยืนเอียงคอจ้องมองเขา

“....มองอะไรเล่า มีงานอะไรทำก็รีบๆไปทำซะทีสิ” รู้สึกแปลกๆที่ถูกจ้องมองนานๆ เขาจึงไล่อีกฝ่ายไปให้พ้นๆหน้า

สีหน้าของคอนเนอร์เจื่อนลงเยี่ยงสุนัขถูกเจ้านายดุ ก่อนจะค่อยๆเดินจากไป…

เมื่อเห็นว่าแอนดรอยด์เดินไปไกลพอควรแล้ว กาวินจึงหยิบมือถือขึ้นมา แสร้งเป็นเช็คอีเมลล์...

@GR1007 : วันนี้มาแปลกแฮะ...แต่ก็ขอบใจสำหรับมื้อเช้าฟรี...

 

กาวิน รี้ดสะดุ้งตื่นขึ้นบนพื้นเย็นเฉียบของห้องเก็บหลักฐาน ทันได้เห็นเพอร์กินส์ที่เดินเข้ามาโวยวาย “นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย!?”

นี่เราสลบไปงั้นเหรอ?

“มีใครบางคนแอบเข้ามาในนี้” เพอร์กินส์กัดฟันกรอด พลางหันไปหาจนท.คนหนึ่งที่เดินตามหลังมา “เปิดสัญญาณเตือนภัย เดี๋ยวนี้!”

กาวินค่อยๆขยับตัวและยันตัวลุกขึ้นยืนโดยมีจนท.คนหนึ่งช่วยพยุง ปวดแปล๊บที่บริเวณต้นคอ

“คุณโอเคมั้ยครับ?”จนท.ที่ช่วยพยุงเขาถาม

กาวินพยักหน้าช้าๆ มือนวดคลึงต้นคอ “ฉันไม่เป็นไร...ขอบคุณ” เขาพาตัวเองออกมาจากห้องเก็บหลักฐาน ไม่มั่นใจว่าตัวเองนั้นหมดสติไปนานแค่ไหน

เมื่อขึ้นมายังกราวด์ฟอร์ของสน.ก็เห็นเพื่อนๆร่วมงานยืนมุงจอทีวีกันเสียส่วนใหญ่ ไม่แปลกใจเลยว่าคงจะดูข่าวเรื่องการตามหาตัวมาร์คัส แอนดรอยด์หัวโจกที่เริ่มการเดินขบวนเรียกร้องสิทธิ์ในสังคม

เท่าที่จำได้ก่อนจะสลบไปนั้น...ดูเหมือนคอนเนอร์จะได้เบาะแสว่ามาร์คัสอยู่ที่ไหนแล้ว...

คอนเนอร์...ไอ้หน้าจิ้มขี้เฮงซวย !

 

“มาแล้วๆ จะเคาะอะไรนักหนาวะ!” แฮงค์เดินมาเปิดประตูหน้าบ้านอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นกาวิน รี้ดยืนอยู่หลังประตูบานนั้น “เมาจนกลับบ้านผิดหลังเรอะไง รี้ด”

“ไอ้หุ่นกระป๋องนั่น...คอนเนอร์อยู่ที่ไหน!?” กาวินแทบจะพุ่งเข้าใส่ตร.รุ่นพี่

“เฮ้ๆ อย่ามากรี๊ดกร๊าดไร้สาระที่หน้าบ้านฉันนะเฟ้ย!” ผู้หมวดวัยกลางคนรู้สึกคันเท้าอยากจะถีบคนตรงหน้าเสียเหลือเกิน “มีเรื่องอะไร?”

กาวินเดินเข้าประตูมาจนแทบจะชนกับแฮงค์ที่ยืนขวางทางอยู่ “ฉันรู้ว่าแกบอกมันใช่มั้ย?”

“บอกอะไร?” สุดท้ายก็ต้องยอมให้มันเข้ามา...แฮงค์กรอกตา ก่อนจะหลบให้อีกฝ่ายเข้ามาในบ้านแล้วปิดประตู

“ทั้งกุญแจห้องเก็บหลักฐาน ทั้งพาสเวิร์ด...แกบอกมันใช่มั้ย?” กาวินคาดคั้น

แฮงค์ยักไหล่ “มีหลักฐานว่าฉันทำเรอะไง? คอนเนอร์ฉลาดอยู่แล้ว ต่อให้ฉันไม่บอกหมอนั่นก็หาทางรู้จนได้นั่นแหละ”

“ฉันจะบอกฟาวเลอร์” นักสืบหนุ่มจิ้มนิ้วใส่อกตร.รุ่นพี่ “ว่าพวกแกรวมหัวกันขัดคำสั่ง”

แฮงค์คว้าจับนิ้วมืออีกฝ่ายอย่างรวดเร็วและมั่นคง “คิดว่าฉันจะปล่อยให้แกทำแบบนั้นรึ ไอ้หนู”

“อย่ามาเรียกฉันแบบนั้นนะ”

“ไม่งั้นแกจะทำไม?”

กาวินกัดฟันกรอด พยายามดึงนิ้วออกแต่ก็ไม่เป็นผล “คอนเนอร์อยู่ที่ไหน?”

“ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันแหละเฟ้ย” ชายสูงวัยกว่าบีบนิ้วในมือแน่นขึ้นจนอีกฝ่ายเริ่มนิ่วหน้า

“เจ้านั่นมันทำร้ายจนท.แล้วหนีหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้!”

“โฮ่ แกกำลังบอกฉันว่าแกโดนคอนเนอร์เล่นงานมางั้นเหรอ?”

“ฉัน...ไม่—ช่างเหอะน่า!”

แฮงค์ยิ้มมุมปาก ทำได้ดีมากไอ้ลูกชาย

“ปล่อยสิเว้ย!” ในที่สุดกาวินก็รวบรวมแรงดึงนิ้วออกจากอุ้งมือใหญ่นั่นได้สำเร็จ “ให้ตายสิ เสียเวลาชะมัดเลย” ไอ่เราก็นึกว่าจะรู้ สุดท้ายก็ไม่รู้อยู่ดี...

-กิ๊งก่อง-

เสียงออดหน้าประตูเรียกความสนใจจากคนทั้งสองได้ทันที

“แกพาใครมาด้วยอย่างงั้นเรอะ?” แฮงค์ถาม

“ฉันมาคนเดียว”

ทั้งคู่มองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่กาวินจะชักปืนออกมาแล้วยืนหลบอยู่หลังประตู จากนั้นส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายเปิดประตูได้ ซึ่งแฮงค์ก็พยักหน้าแล้วเปิดประตู

“ผู้หมวดแอนเดอร์สัน” ใบหน้าของคอนเนอร์ปรากฏขึ้นหลังบานประตู

“คอนเนอร์! ให้ตายสิ” มาได้ผิดเวลาชะมัด แฮงค์ลังเล แต่สุดท้ายก็ถามออกไป “ว่าแต่...ได้ความว่ายังไงบ้างล่ะ?”

“ได้โปรด ช่วยมาด้วยกันหน่อยได้มั้ยครับ ผมรู้แล้วว่าจะหามาร์คัสเจอได้ที่ไหน” คอนเนอร์ขอร้อง

ยังไม่ทันที่แฮงค์จะตอบ กาวินก็ก้าวพรวดออกจากที่ซ่อน “พวกแกรวมหัวกันขัดคำสั่งจริงๆด้วย!”

แฮงค์หันไปกรอกตาใส่กาวิน “หุบปากน่า รี้--”

ปัง ! ปัง!

ไวกว่าที่มนุษย์ทั้งสองจะตั้งตัวทัน ร่างของกาวินล้มลงบนพื้นก่อนที่จะทันได้ส่งเสียงร้อง

“กาวิน!” ดวงตาสีฟ้าของแฮงค์เบิกกว้างอย่างตกตะลึง เมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องโอดครวญอยู่บนพื้น เลือดไหลทะลักออกจากแผลที่อกขวาและขาซ้ายซึ่งถูกยิงอย่างละหนึ่งนัด ปืนของกระเด็นหลุดจากมือไปไกล จากนั้นเขาหันกลับไปมองแอนดรอยด์คู่หูที่ยืนถือปืนอยู่ในมือ ปากกระบอกปืนมีควันลอยออกมาจางๆ และมันกำลังจ่ออยู่กลางหน้าผากของเขา “นี่มันเรื่องเห้อะไรกันวะคอนเนอร์!?”

“มากับผม ผู้หมวดแอนเดอร์สัน” น้ำเสียงของคอนเนอร์นั้นนิ่งเรียบ

“แกยิงคน...แกยิงกาวิน!” แฮงค์ปัดกระบอกปืนออกจากหน้า แต่มันก็ตวัดกลับมาจ่อใส่เขาอีกครั้งในพริบตา

“ผมยิงไม่ถูกจุดสำคัญ เขาจะไม่เป็นไร”

“ไม่เป็นไรพ่องสิ!” แฮงค์ถลึงตาใส่แอนดรอยด์ตรงหน้า “แก...ไม่ใช่คอนเนอร์...”

เจ้าแอนดรอยด์เพียงแค่ยิ้มมุมปาก

“คอนเนอร์...อยู่ที่ไหน?”

“ผมจะพาคุณไปหาเขา ช่วยมาด้วยกันด้วยครับ” คอนเนอร์ กล่าวย้ำ กดปืนใส่กลางหน้าผากผู้หมวด LEDข้างขมับของมันกระพริบเป็นสีเหลืองอยู่ไม่กี่วิ ก่อนจะกลับเป็นสีฟ้าเหมือนเดิม “ผมได้เรียกรถพยาบาลมาแล้ว” เขาพยักเพยิดไปทางกาวินที่นอนคุดคู้อยู่ที่พื้น “ไม่ต้องห่วง เขาจะรอด”

กาวินกัดฟันทนความเจ็บปวดและคลานไปหาปืนที่ตกอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล มือสั่นเทาเอื้อมจับด้ามอาวุธได้ในที่สุด จากนั้นจึงหันไปทางประตูที่เปิดอ้าไว้ ทว่าพบกับความว่างเปล่า

เจ้าแอนดรอยด์ระยำที่ยิงเขาและแอนเดอร์สันไม่ได้อยู่ตรงนั้นเสียแล้ว...

ให้ตายสิ ไปไหนกันแล้ว? ไอ้หุ่นเชี่ย... นักสืบหนุ่มได้ยินเสียงครางหงิงๆของสุนัขเลี้ยงของแอนเดอร์สัน ก่อนที่เจ้าก้อนขนขนาดใหญ่จะเดินมาเอาหัวดุนๆต้นแขนเขาเหมือนกำลังพยายามปลอบโยนเขา

กาวินคลี่ยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน เปลืออกตาหนักอึ้งขณะที่หูได้ยินเสียงไซเรนของรถพยาบาล “ฉันจะไม่ตายจนกว่าจะได้ยิงไอ้หุ่นเฮงซวยนั่นทิ้งหรอกนะเจ้าเพื่อนยาก"

 

 

TBC...