Actions

Work Header

nine years

Summary:

aonungnete อาวนุงเน

feat. tonojake โตโนเจค

Sequel to Angel (here)

CW: mentioned mpreg, oc characters , ooc

Notes:

(See the end of the work for notes.)

Work Text:

เก้าปีผ่านไปหลังจากการสู้รบครั้งล่าสุดปัจจุบันเมย์ไรยาอายุสิบเก้าปีผ่านพิธีอิกนิยามาทั้งของเมตคายีนาและโอมาติกายา ส่วนโทรักกำลังตั้งใจฝึกเพื่อให้ผ่านพิธีของตัวเอง เทเซรียังคงเป็นเด็กวัยเก้าขวบที่สนุกกับวิ่งเล่นและขี่อีลูมากกว่าการฝึก นอกจากนี้โอโลเอทานและซาฮิคยังมีลูกสาววัยสองขวบเพิ่มมากอีกหนึ่งคน วีญา โอมาติกายาตัวน้อยที่ยังคงติดแม่เป็นธรรมดา

ชีวิตของทุกคนสงบลงมากหลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น แม้คนบนฟ้ายังคงรุกรานแพนโดราอยู่ไม่หยุดหย่อนแต่ชาวนาวีลุกขึ้นต่อสู้ขัดขืดและขับไล่พวกนั้นอยู่ตลอด เจคจึงปล่อยให้เมย์ไรยากลับไปที่เขตป่าฝนครั้งละสองถึงสามเดือนเท่านั้นก่อนจะต้องกลับมาบ้าน ลูกสาวคนโตของซาฮิคปฏิเสธจะรับตำแหน่งต่อหรือแม้แต่การเป็นซาคาเร็ม ศีเรยา ลูกสาวของโรนัล เพื่อนและผู้ช่วยจึงเข้ามาฝึกในตำแหน่งนี้แทนซึ่งก็ไม่มีใครคัดค้านโดยเฉพาะเมย์ไรยา

ทั้งอาวนุงและศีเรยาใกล้ชิดกับครอบครัวของหัวหน้าเผ่ามาตั้งแต่เด็ก ลูกๆ เล่นด้วยกันตั้งแต่ยังไม่รู้ความจนปัจจุบันอาวนุงเป็นนักล่าที่มีฝีมือเช่นเดียวกับน้องสาวที่ตั้งใจฝึกหน้าที่ตัวเอง แต่ก็ยังต้องคอยช่วยโอโลเอทานและซาฮิคดูแลลูกที่ยังเด็กเมื่อทั้งสองคนต้องการเวลาส่วนตัวเพราะเมย์ไรยาคนเดียวไม่สามารถดูและน้องสามคนได้หมด

โทรักที่เริ่มจะเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ ร่างกายที่เติบโตเต็มที่จิตใจที่เริ่มมั่นคงขึ้นเช่นเดียวกับพี่สาวแต่หนึ่งสิ่งที่ลูกๆ ของโอโลเอทานมีเหมือนกันคือทุกคนติดผู้เป็นมารดามากรวมถึงตัวของโอโลเอทานอย่างโตโนวารีเองด้วย ภาพของเด็กทั้งสามคนออดอ้อนซาฮิคมักเป็นที่ชินตา แม้ว่าทุกคนจะยังคงเกรงในตำแหน่งของเจคที่เป็นทั้งนักล่าที่มีฝีมือ โทรุคมัคโตและซาฮิคแต่สำหรับลูกๆ นั้นเจคเป็นเพียงแค่ท่านแม่เท่านั้น

 

"ข้าก็อยากใช้เวลาอยู่กับเจ้าบ้าง"

"นี่ท่านหงุดหงิดเพราะวีญาได้อยู่กับข้าตลอดงั้นหรือ"

"อาจจะใช่"

เจคที่บนอกมีลูกสาวหลับอยู่โดยที่มือก็ยังคงเตรียมอาหารสำหรับมื้อถัดไปมองคนรักของตัวเองที่กำลังนั่งถักแหสำหรับหาปลาอันใหม่

"ท่านก็อยู่ข้างข้าแล้วนี่ไง"

"ข้าอยากได้มากกว่านี้"

"หมายถึงสิ่งใด ถ้าหากว่าเป็นลูกข้าคิดว่ามากพอแล้ว"

"มาเจค"

"ไม่ต้องอ้อน เมย์ไรยาจะกลับไปโอมาติกายาอีกแล้ว"

"เจ้าจะไปด้วยหรือไม่"

"ข้าคิดว่ามีคนอยากไปกับนางและข้าคงต้องเป็นคนพาเด็กๆ ไปส่ง"

"นอกจากเมย์ไรยามีใครอยากจะไปมากเพียงนั้น"

"อาวนุงกับศีเรยา สองคนนั้นกับลูกของเนย์ทิรีตามเกี้ยวกันมาหลายปี ของขวัญมากมายถูกส่งไปมา ท่านไม่สังเกตหรือ"

"ข้าสนใจแต่เจ้ากับลูก"

"ท่านจะได้สนใจแต่ลูกแน่ ท่านต้องดูแลลูกชายกับลูกสาวเราตอนข้าไม่อยู่"

ตั้งแต่ครั้งนั้นที่ครอบครัวของเนย์ทิรีมาพักพิงที่อะวาอัตลูเด็กทุกคนสนิทกันได้ค่อนข้างเร็วแม้จะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง โลอัคกับศีเรยาดูจะสนใจกันตั้งแต่ตอนนั้นเช่นเดียวกับเนเทยัมและอาวนุงที่เริ่มจากการเป็นเพื่อนที่ดี เมื่อชาวนาวีป่าต้องกลับบ้านเกิดเมย์ไรยาที่เดินทางไปมาบ่อยๆ จึงกายเป็นคนส่งสารส่งข้อความกันไปมา ครั้งล่าสุดที่ทุกคนรวมตัวกันคือสองปีที่แล้วที่เนย์ทิรีกับลูกๆ มาเยี่ยมเขาตอนวีญาเกิดได้ไม่นาน

 

วันออกเดินทางมาถึงอาวนุงถูกบังคับให้ขึ้นหลังโทรุคแม้จะหวาดระแวงทั้งตัวเจ้าโทรุคเองและโมรุคมัคโตที่ยังเป็นซาฮิคอีกด้วย ส่วนน้องสาวเขากลับหน้าระรื่นซ้อนอยู่บนหลัง เพฟี อิกรานของเมย์ไรยา ส่วนโทรัก เทเซรีและวีญาจะอยู่กับโอโลเอทานที่นี่รอเจคกลับมา

เป็นครั้งแรกที่อาวนุงได้อยู่บนฟ้าสูงขนาดนี้เพราะซูรัคไม่บินสูงเท่าอิกรานแม้ว่าทั้งคู่จะมีบรรพบุรุษที่คล้ายกันและอิกรานเมตคานียาไม่นิยมขี่อิกรานแม้จะพบเห็นพวกมันอยู่บ้าง ผ่านร้อนผ่านฝนและลูกคลื่นมากมายในที่สุดก็เข้าถึงเขตป่าฝนที่เคยได้ยินมาตลอดแต่ไม่เคยมีโอกาสได้มาสัมผัส ทั้งสี่คนถูกปล่อยลงที่ต้นไม้สูงใหญ่สองแม่ลูกที่มีพื้นเพเป็นโอมาติกายาปรับตัวได้อย่างคล่องแคล่ว ส่วนสองพี่น้องกำลังดิ้นรนและทรงตัวไม่ให้ไหลลงจากทางเดินสูงนี่ลงไปด้านล่างแต่สุดท้ายอาวนุงที่เดินอย่างระมัดระวังก็ลื่นจนไถลลงมาตามใบไม้เถาวัลย์ก่อนจะกระแทกลงกับพื้นดินด้านล่าง

"อาวนุง พี่เป็นอย่างไงบ้าง"

"ยังไม่ตาย"

หลังจากตอบบออกไปก็ได้ยินเสียงหัวเราะของคนที่อยู่ด้านบนก่อนเจคจะกระโดดตามลงมาส่วนเมย์ไรยานำน้องสาวเขาค่อยๆ หาทางลงที่ปลอดภัย

"บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า"

"แค่แผลถลอกครับ"

ระหว่างที่กำลังปัดตัวและตั้งหลักใหม่เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาก็ทำให้หูทั้งสองข้างกระดิกพร้อมกับระแวดระวัง จนภาพของสัตว์แปลกตาก็โผล่ให้เห็นจำได้ว่ามันน่าจะคือพาเล ส่วนคนบนหลังพาเลก็เป็นสองพี่น้องเนเทยัมและโลอัค

"ทีนั้นทำเป็นว่าพวกข้าห่วยเรื่องดำน้ำ เจ้าก็ห่วยเรื่องการทรงตัวนี่หน่า"

"โลอัค" เนเทยัมเอ่ยเสียงอ่อนปรามน้องชายตัวเอง

"ไปที่โฮมทรีเถอะ ให้ซาฮิคดูแผลเจ้า"

เมตคายีนาที่ถูกหิ้วขึ้นหลังพาเลไปกล่าวทักทายเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานจนลืมน้องสาวและซาฮิคของเผ่าไปเสียแล้ว แต่โลอัคยังคงตามติดเหน็บแนมนาวีที่ตกจากต้นไม้จนถึงโฮมทรี

แผลถลอกต่างๆ ถูกดูแลโดยชิลวานิน เมย์ไรยาที่คุ้นเคยกับที่นี่คุยกับทุกคนอย่างสบายใจต่างจากสองพี่น้องนาวีทะเลที่ยังคงเกร็งและไม่กล้าทำอะไรจนโอโลเอทานอย่างซูเตย์เดินเข้ามา

"ข้าเห็นท่าน โอโลเอทาน"

ซูเตย์ตอบกลับสองพี่น้องด้วยท่าทางก่อนจะหันมาทางเจค

"ข้าอยากฝากพวกเขาไว้กับเมย์ไรยา"

"ผู้ใดจะกล้าขัดใจเจค ซัลลี่"

"เจ้าเป็นถึงโอโลเอทาน"

"เจ้าเป็นถึงโทรุคมัคโตและเพื่อนของข้า"

แน่นอนว่าเนเทยัมและโลอัคถูกมอบหน้าที่ให้ดูแลและสอนวิถีของโอมาติกายาให้นาวีจากชาวกลุ่มปะการัง เจคใช้เวลากับเพื่อนสนิทขึ้นบินเหมือนทุกครั้ง พูดคุยกับแม่และหลานๆ ก่อนจะเดินทางกลับในเช้าวันถัดไปเพราะแม้ว่าโตโนวารีจะเก่งกาจถึงเพียงใดก็ไม่อาจรับมือกับความคิดถึงของลูกทั้งสามคนต่อผู้เป็นแม่ได้โดยเฉพาะลูกสาวคนเล็ก ยังไม่นับตัวของโอโลเอทานเองที่คิดถึงซาฮิคของตนทุกวินาทีที่ห่างกัน

 

"เจ้าต้องเริ่มจากการขี่พาเล" เนเทยัมพูดขณะจูงพาเลออกมายังพื้นที่กว้าง

"แล้วศีเรยาไปที่ใด"

"นางกับโลอัคน่าจะอยู่กับซาฮิค พืชพันธุ์ที่นี่มีหลายอย่างที่น่าสนใจ"

"กำไลที่เจ้าให้ไปมันสวยมาก"

"ข้าไม่เห็นมัน"

ผู้ได้รับกำไลไม่ตอบแต่วางมือลงที่กลุ่มผมของตัวเองพร้อมกับโชว์สิ่งที่ทำให้คนมองยิ้มออก

"เจ้าต้องซาเฮย์ลูและควบคุมพาเล"

เนเทยัมมองเพื่อนสนิทพยายามปืนขึ้นหลังอาชาตัวนี้แล้วก็นึกยิ้มหวนคิดถึงตอนที่เจอกันครั้งแรกที่ไม่ค่อยดีนัก แต่การใช้เวลาร่วมกันในการฝึกภาษา วิถีชีวิตและหัดขี่อีลูของเมตคานียาแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ ก็เป็นช่วงเวลาที่ยังคงจำได้ดีแม้ว่าจะผ่านมาเกือบสิปปีแล้วก็ตาม

"มาดูกันว่าเจ้าจะทำได้ดีกว่าข้าตอนขี่อีลูครั้งแรกหรือไม่"

"ข้าจะทำให้ดู"

สายสัมพันธ์ระหว่างเมตคายีนาหนุ่มและพาเลถูกเชื่อม การเคลื่อนไหวกะทันหันเล็กน้อยเพราะซาเฮย์ถูกควบคุมได้ก่อนสายตาสองคู่ประสานกันพร้อมกับยิ้มอยากท้าทายกันไปมา

"ไปข้างหน้า"

เมื่อได้รับคำสั่งพาเลก็ทำตามแต่ร่างกายของอาวนุงกลับสวนทางหลุดตกลงมาเปลื้อนโคลนจนคนที่รับหน้าที่ฝึกหัวเราะเสียงดัง

"เจ้าแพ้ ข้าอยู่บนอิลูกได้นานกว่านั้น"

"แต่มันต่าง"

"ถ้าเจ้าคุมพาเลไม่ได้วันนี้ข้าก็จะออกไปล่าคนเดียว"

"ข้าทำได้"

สุดท้ายเนเทยัมก็ออกล่าพร้อมกับธนูประจำตัวโดยมีอาวนุงติดสอยห้อยตามมาด้วย ทั้งสองคนใช้เวลาด้วยกันไปกับการหยอกล้อมากกว่าจะสนใจการล่าอย่างจริงจังจนถึงเวลาที่ต้องกลับเข้าหมู่บ้าน เมตคายีนาสองพี่น้องรวมกลุ่มใช้เวลาทานอาหารกับเพื่อนก่อนทุกคนจะแยกย้ายกันไปเตรียมตัวเข้านอน แต่มีนาวีหนึ่งคู่กำลังเดินหายเข้าไปในป่า

"เจ้าช้าจัง"

"เจ้าเร็วเกินไป"

"เร็วเข้า ข้าจะพาเจ้าไปว่ายน้ำ"

"จะออกไปทะเลหรอ"

"เปล่า"

เนเทยัมนำทางมาจนถึงแม่น้ำที่ส่องแสงประกายทำให้อาวนุงนึกถึงผืนน้ำที่บ้านเกิด รอยยิ้มที่ตราตรึงในใจมาตลอดเก้าปีถูกส่งมาให้อีกครั้ง นาวีที่ยืนส่งยิ้มมาให้เขาอย่างจริงใจก่อนจะสังเกตเห็นสร้อยคอที่มีเขี้ยวของอะคูลาห้อยอยู่ สร้อยคอที่เขาฝากเมย์ไรยามาให้หลังจากผ่านพิธีในวัยสิบหกปี เขี้ยวของสัตว์ร้ายที่ชิ้นนึงที่อยู่บนสร้อยขอของเนเทยัมและอีกชิ้นอยู่ที่ซองคอร์ดของเขา

"เจ้าสวมมัน"

"เวลาที่ไม่ได้ออกล่า ข้ากลัวทำมันหาย"

"แข่งกันไหม"

"ยังไงเจ้าก็ชนะถ้าเป็นเรื่องว่ายน้ำ"

"เจ้ายอมแพ้แล้วหรอ"

"ใครบอก"

"เจ้าขี้โกง"

เมื่อพูดจบนักล่าหนุ่มของโอมาติกายาก็กระโดดลงไปในน้ำโดยไม่บอกกล่าว ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องดำและว่ายน้ำพูดอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนตามลงไป ทั้งแข่งทั้งแกล้งกันอยู่พักใหญ่ก่อนจะต้องกลับโฮมทรีเพราะจะต้องตื่นแต่เช้าในวันพรุ่งนี้

เริ่มวันด้วยการเรียนทำธนูและยิงธนูอาวุธประจำตัวของอารอนยู ปกติอาวุธของชาวเกาะอย่างอาวนุงคือหอกยาวที่มีปลายแหลมคมแม้จะมีหน้าไม้ที่ไว้สำหรับยิงปลาที่ใต้แต่การที่ต้องมาดึงสายของคันธนูบนบกต่างจากหน้าไม้ที่เล็งแล้วปล่อยเท่านั้นจึงทำให้ลำบากนิดหน่อยจนพลาดเป้าหมายอยู่หลายครั้ง

"เจ้าห่วย"

"หุบปากหน่าโลอัค"

"ก็เจ้าห่วยจริงๆ"

สองคู่กัดวัยเด็กยังคงทำตัวเหมือนอย่างเคยแม้ว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว

"ข้าจะเล็งก้นเจ้าให้ดู"

"แค่ข้าขึ้นต้นไม้เจ้าก็ตามไม่ได้แล้ว ไหนจะฝีมือห่วยๆ นี่อีก ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก"

"เนเทยัมไปไหนทำไมต้องเป็นเจ้ามาสอนข้า"

"เนเทยัมกับเมย์ไรยาไปที่เขาลอยฟ้า เนเทยัมต้องนำเด็กๆ ไปทำการทดสอบเลือกอิกรานของตัวเอง"

"ข้าอยากไปดู"

"เจ้าปืนขึ้นไปไม่ได้ อย่างเจ้าได้ตกจากฟ้าลงมาตายอย่างเดียว"

"เจ้าพาข้าไปได้ เจ้ามีอิกราน"

"ทำไมข้าต้องพาเจ้าไป"

"ข้าจะบอกว่ามีใครที่เมตคายีนามาสนใจศีเรยาบ้าง"

เสียงขัดใจถูกส่งออกมาโดยโลอัคเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว คนพูดแอบยิ้มเมื่อเห็นคนสอนยิงธนูของตัวเองแสดงอาการร้อนรน

"ถ้าเจ้าเล็งนั่นถูก ข้าจะพาไป"

มีทั้งแรงจูงใจความตั้งใจและสมาธิก็เพิ่มมากขึ้นใช้เวลาไม่นานหลังจากหลายลูกศรในที่สุดปลายแหลมนั่นก็ปักลงที่เป้าหมาย คู่กัดทั้งสองคนจึงมาอยู่บนหลังอิกรานของโลอัคมุ่งหน้าไปยังที่อยู่ของอิกราน

 

ที่เมตคายีนามีงานเลี้ยงฉลองวันที่เหล่าโทลคุนหวนคืนบ้าน แชร์เรื่องราวที่ขาดหายระหว่างการผจญภัยของแต่ละคนเช่นเดียวกับเจคและนารัม พี่สาวร่วมจิตวิญญาณของซาฮิคประจำเผ่า บอกเล่าเรื่องราวถามไถ่สิ่งที่เจอโดยเฉพาะโทลคุนน้อยที่อยู่ข้างตัวพี่สาว ลูกตัวที่สามของนารัม ส่วนโตโนวารีกับพี่ชายยังคงสนุกกับการแหวกว่ายในสายน้ำ ก่อนที่เจคจะต้องไปหาโทลคุลของอาวนุงและศีเรยารวมทั้งพี่สาวของเมย์ไรยาด้วยว่าเหตุใดพวกเขาถึงไม่มาพบเจอ

ซึ่งทุกอย่างก็ถูกเข้าใจอย่างง่ายดาย เหล่าโทลคุนรู้ว่าพี่น้องของพวกเขากำลังตกหลุมรัก ทั้งอาวนุงและศีเรยาเล่าเรื่องราวของนาวีป่าให้พี่น้องฟังอยู่เสมอ ส่วนพี่สาวของเมย์ไรยาก็รู้ดีว่านางกลับไปที่โอมาติกายาบ่อยๆ

เมื่อพบปะกันเรียบร้อยเหล่าโทลคุนก็มุ่งหน้าไปที่อ่าวบรรพบุรุษเพื่อนำลูกๆ ที่เกิดใหม่เชื่อมต่อกับเอวาที่พฤกษาแห่งจิตวิญญาณเช่นเดียวกับที่เมตคายีนาทำทุกครั้งเมื่อลูกของพวกเขาเกิด

"พวกคนบนฟ้ายังไม่หยุดล่าพี่น้องของเรา"

"เราจะสู้ถ้ามันจำเป็น"

ซาฮิคเอ่ยต่อโอโลเอทานเมื่อทั้งสองคนอยู่ตามลำพังในมารุยพร้อมกับวีญาที่หลับสนิท ตลอดเก้าปีที่ผ่านมาพวกคนบนฟ้ายังคงส่งคนลงมาเรื่อยๆ แม้ว่าจะถูกขับไล่และต่อต้าน เรือเหล็กยักษ์ลำใหม่โผล่มาล่าเหล่าโทลคุนอยู่ตลอดและไม่ใช่ทุกครั้งที่พวกเราจะทำลายมันได้แต่ก็มีการสูญเสียน้อยลงเมื่อโทลคุนเริ่มเรียนวิธีการหลบหลีกเลี่ยงที่จะพบปะทำให้คนบน้าตามหาได้ยากขึ้น

"ตอนนี้ข้ายังอยากให้เด็กๆ ได้อยู่อย่างสงบ สงครามมีแต่จะสูญเสียถ้าเราไม่รอบคอบ ปกติต้องเป็นข้าไม่ใช่หรือที่เลือดร้อนโตโนวารี"

"เจ้าใจเย็นลงตั้งแต่ลูกเริ่มโต"

"ใจร้อนไปก็เอาเจ้าลูกตัวแสบพวกนี้ไม่อยู่ แต่ดีหน่อยที่โทรักตั้งใจอยู่กับการฝึกส่วนเทเซรีกับวีญาทำข้าแทบจะหัวหมุน"

"เจ้างดงามเจค"

คนถูกชมทำหน้างงเมื่ออยู่ๆ คนรักก็เปลี่ยนเรื่อง มือหนาเริ่มรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวบีบทั้งหน้าอกหน้าท้องนิ่มพร้อมกดจูบไปทั่วซอกคอ

"เจ้ายังคงงดงามเหมือนครั้งแรกที่เราเจอกัน สิบเก้าปีที่แล้ว"

"ขอบคุณเอวาที่ตอบรับคำขอของเรา"

 

อาวนุงและศีเรยาปรับตัวได้เข้าวิถีของโอมาติกายาได้อย่างดีตลอดสามเดือนที่ผ่านมาแม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เริ่มแกะรอยและเดินทางไปมาบนต้นไม้ได้คล่องแคล่วมากขึ้น ว่าที่ซาฮิคของเมตคายีนาเรียนรู้หลายอย่างจากป่าฝนและชิลวานินรวมถึงได้ใช้เวลากับโลอัค

ฝีมือการยิงธนูของพวกเขาพัฒนาขึ้นเช่นเดียวกับความสัมพันธ์กับสองพี่น้องโอมาติกายา เนเทยัมพาขึ้นบินบนหลังอิกรานไปทั่วผืนป่า ได้เห็นแลถสัมผัสกับเอวาผ่านพฤกษาแห่งจิตวิญญาณ ผ่านร่องรอยของสงครามที่เคยเกิดขึ้น เข้าร่วมเทศกาลล่าสัตว์ได้เห็นเนเทยัมและโลอัคโชว์ฝีมือ งานฉลองและการเต้นรำตามแบบนาวีป่า รวมถึงวันที่เนเทยัมบอกว่าจะมีงานวันเกิดแต่มันไม่ใช่การเกิดครั้งที่สอง ทอมและเนย์ทิรีเตรียมหลายอย่างที่ดูแปลกตา โลอัคและทูคทีรีเตรียมของขวัญให้พี่ชาย เนเทยัมอธิบายว่ามันคือพิธีฉลองการเกิดของคนบนฟ้า

เมย์ไรยาได้ใช้เวลาสามเดือนกับครอบครัวที่นี่อย่างคุ้มค่าแต่นางรู้ดีว่าต้องกลับบ้าน คุณยายมาส่งเหมือนทุกครั้งต่างกันที่ครั้งนี้จะมีเนเทยัมและโลอัคไปเมตคายีนาด้วย ที่ผ่านมาเนเทยัมใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับพ่อและแม่มากกว่าน้องๆ ไม่ว่าชวนเท่าไหร่ก็ไม่ไปเพราะไม่อยากห่างทั้งสองและเมื่อพี่ชายไม่ไปโลอัคก็ไม่ไปแม้ว่าจะอยากเจอศีเรยาแค่ไหนก็ตาม จนกระทั่งอาวนุงมาเหยียบที่นี่โลอัคได้ใช้เวลากับศีเรยาอีกครั้ง เนเทยัมถอยห่างจากพ่อและแม่มาใช้เวลากับน้องและเพื่อนมากขึ้น

เนย์ทิรีและทอมดูจะห่วงการเดินทางมากกว่าการไปอยู่ที่เมตคายีนาเพราะที่นั่นมีเจคอยู่แต่ระหว่างทางกลับมีหลายสิ่งหลายอุปสรรคที่ไม่สามารถควบคุมได้ถึงจะรู้ว่าลูกทั้งสองโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม

"มีอะไรเจ้าต้องติดต่อมารู้ใช่ไหม"

"ครับผม"

ทอมพูดพร้อมกับกอดลูกชายทั้งสองคนและเช็คอุปกรณ์สื่อสารของมนุษย์ที่อยู่ในย่ามของเนเทยัม

"แม้จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วถ้าพวกเจ้าก่อเรื่อง มาเจคจะจัดการ เข้าใจไหม"

"ครับแม่"

สัมภาระต่างๆ ถูกจัดขึ้นบนหลังอิกรานโดยเฉพาะสมุนไพรที่ศีเรยาเก็บและเตรียมไว้หลังจากเรียนรู้และสำรวจ หลายอย่างต่างจากที่บ้านเกิดและอาจจะมีประโยชน์ในกาลข้างหน้า

ทูคทีรีวัยเก้าปีกำลังเศร้าที่ต้องจากลากับพี่ชายพี่สาวและเพื่อนใหม่ทั้งสองคนโดยเฉพาะซาคาเร็มของเมตคายีนาแม้ว่าจะเป็นการจากกันแค่ชั่วคราว

"ข้าอยากไปด้วย"

"แล้วใครจะดูพ่อกับแม่แทนพี่" เนเทยัมตอบน้องสาว

"ก็ได้"

"ข้าจะนำของขวัญกลับมาให้"

"สัญญานะโลอัค"

"สัญญา"

อิกรานสามตัวบินออกไปจากเขตป่าฝนสู่น่านน้ำกล้างใหญ่โดยมีอาวนุงอยู่กับเนเทยัมและน้องสาวอยู่กับโลอัค

"ทำไมข้าถึงไม่มีคู่อยู่คนเดียว" ลูกสาวคนโตของเจคเอ่ยขึ้น

"เพราะเจ้าหมกหมุ่นอยู่กับล่าไงเมย์ไรยา"

"เจ้าก็หมกหมุ่นอยู่กับการตามหาร่องรอยของคนบนฟ้าในป่านั่นโลอัค"

 

เสียงแตรบอกการมาถึงของอิกรานดังไปทั่วอะวาอัตลู เจคละจากสิ่งที่ทำอยู่ก่อนจะพาลูกสาวคนเล็กออกมารับลูกสาวคนโตและสมาชิกอีกสองคนก่อนจะแปลกใจเมื่อเห็นจำนวนขึ้นมากกว่าที่คาดไว้

"เนเทยัม โลอัค"

"ข้าเห็นท่านซาฮิค"

"ดีใจที่เจ้ามา โทรักจะพาเจ้าไปที่มารุย"

เทเซรีที่วิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้พุ่งไปที่สาวคนโตพร้อมกับเสียงหัวเราะและรอยแผลฟกช้ำที่หน้าผาก

"เจ้าไปทำสิ่งใดมาเทเซรี ข้าบอกให้เจ้าดูแลท่านแม่กับน้องใยจึงมีแผล"

"ข้าปกป้องวีญา"

"ไม่ให้น้องล้มแต่ตัวเองล้มแทน" เจคตอบคำถามที่ลูกคนโตส่งมาทางสายตา

"ข้าทนเจ็บได้ วีญายังเด็ก"

"เก่งมากเทเซรี แล้วท่านพ่อไม่อยู่หรือ"

"ออกไปนอกแนวปะการังตั้งแต่เช้าแล้ว เจ้าพาน้องไปที่มารุยทีข้าต้องคุยกับอาวนุงและศีเรยาอีกนิดหน่อย"

วีญากับเทเซรีถูกพี่สาวอุ้มและจูงมือมุ่งหน้าไปทางมารุยส่วนซาฮิคกำลังจะต้องทำหน้าที่ของตัวเองหลังจากที่ทั้งสองคนได้พูดคุยกับโรนัลเรียบร้อย

"เป็นอย่างไงบ้าง"

"ข้าได้เรียนรู้จากพวกเขามากมาย"

"ข้าก็เช่นกัน ข้าเก็บพืชสมุนไพรกลับมาด้วย หวังว่ามันจะเป็นประโยชน์"

"พี่ๆ เจ้าหวนคืนบ้านเมื่อเดือนที่แล้ว พวกเขาบอกดีใจที่เจ้าไปพบคนที่คอยเล่าให้ฟัง"

"พี่ข้าสบายดีไหม" ศีเรยาถามขึ้น

"นางสบายดี โทลคุนบางตัวบาดเจ็บและเราก็สูญเสียพวกเขาไปหนึ่ง"

"พวกคนบนฟ้า" น้ำเสียงของนักล่าหนุ่มปนไปด้วยความโกรธ

"เจ้าทั้งสองคนเก่งมาก ข้าจะเอาของจำเป็นไปเก็บเอง พวกเจ้าไปใช้เวลากับโรนัลต่อเถอะ นางคงอยากถามไถ่มากกว่านี้"

 

หลังจากใช้เวลาเก็บของปรับตัวเล็กน้อยเนเทยัมและโลอัคกลับมาทำความคุ้นชินกับวิถีแห่งสายน้ำอีกครั้งโดยเฉพาะอีลู ต่างที่คราวนี้เป็นโทรักมาคอยสอนและดูแล

"ข้าจะผ่านการทดสอบสุดท้ายในอีกสี่วัน"

"เจ้าทำได้แน่โทรัก"

"ขอบคุณโลอัค"

"เพราะว่าเจ้าเก่งกว่าเจ้าปากปลานั่นตั้งเยอะ"

สองพี่น้องกินอาหารที่มารุยของโอโลเอทานก่อนจะกลับมาพักผ่อนเตรียมตัวสำหรับวันต่อไป เมื่ออีลูไม่ใช่เรื่องยากวันนี้เนเทยัมและน้องชายจึงใช้เวลาจับปลาใต้น้ำโดยที่ยังไม่ได้เจออาวนุงหรือศีเรยา

พระอาทิตย์ใกล้ลับฟ้าสองนาวีไล่ตามกันด้วยอีลูมุ่งหน้าไปยังอ่าวบรรพบุรุษโดยมีอาวนุงนำอยู่ด้านหน้า จนเมื่อลอดผ่านมาทั้งสองคนก็ตีคู่กันไปอย่างไม่เร่งรีบ

"ข้าอยากลองขี่ซูรัค"

"ข้าจะคุยกับท่านโตโนวารีให้"

"ให้ข้าคุยเอง ข้าเป็นคนอยากฝึก"

"ได้"

พวกเขาเชื่อมถึงเอวาผ่านสายสัมพันธ์อยู่พักใหญ่ บอกความรู้สึกข้างใน บอกความต้องการ แสดงความขอบคุณที่เอวานำเราทั้งสองมาเจอกันจนในที่สุดก็ขึ้นมาเหนือน้ำ รอยยิ้มที่ราวกลับแสงอาทิตย์ถูกส่งมาให้เขาเสมอจนอดไม่ได้ที่จะลดระยะห่าง ขยับเข้าไปใกล้ดึงอีกคนเข้ามาในอ้อมแขนลูบไปที่ข้างลำตัวใต้ผิวน้ำ

"ข้าเห็นเจ้า"

"ข้าเห็นเจ้า"

ริมฝีปากสองคู่เชื่อมต่อบอกความรู้สึกภายในที่ถูกเก็บมานาน ก่อนจะแยกออกจากกันด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ ที่บอกว่าเจ้าของนั้นมีความสุข

"เราต้องกลับแล้ว นานกว่านี้โลอัคต้องก่อเรื่องแน่"

"นั่นสินะ"

สองคนจึงตัดสินใจมุ่งหน้ากลับหมู่บ้านเพื่อไม่ให้น้องชายที่ขี้เป็นห่วงของเนเทยัมก่อเรื่องเพราะพี่ชายหายตัวไปถึงจะรู้ว่าหายไปไหนก็ตาม จูบหวานถูกแลกเปลี่ยนอีกครั้งก่อนจะแยกกันไปตามมารุยของตัวเอง

"ข้าเห็นนะ"

เสียงของน้องชายดังขึ้นทันทีที่ก้าวขาเข้ามาเหยียบพื้นสานของมารุย

"ก็ไม่แปลกอะไร"

"ข้ารู้ พวกเจ้าสองคนชอบพอกันมานานแล้ว"

"เหมือนเจ้ากับศีเรยา"

"จะอยู่ที่นี่หรือไม่ ถ้าคู่กับเขา"

"เจ้าล่ะ"

"ศีเรยาเป็นซาคาเร็ม"

"ข้าไม่รู้"

โอโลเอทานอนุญาตให้โอมาติกายาทั้งสองเริ่มฝึกกับซูรัคได้ อาวนุงเป็นคนสอนเนเทยัมพร้อมนักล่าคนอีกสองคนกำลังช่วยตรึงสัตว์ที่กำลังพยศ เช่นเดียวกับโลอัคที่มีนักล่าของเมตคายีนาสามคนช่วยดูแล

"เจ้าต้องระวัง"

"ซาฮิคสอนเทคนิคให้ข้า ข้าว่าข้าทำได้"

"ถ้างั้นเจ้าก็ทำได้ ซาฮิคเป็นถึงโทรุคมัคโต เก่งกาจทุกด้าน ดูแลทั้งบ็อบ โทรุค อีลู ซูรัคอีก"

สองมือบางกำแน่นลงที่อานบังคับของเจ้าตัวที่กำลังดิ้นพร่าน เตรียมซาเฮย์ลูก่อนจะพุ่งข้างหน้าทันทีที่สายสัมพันธ์ถูกเชื่อม อาวนุงได้แต่อยู่ห่างๆ มองเนเทยัมที่ลอยอยู่บนหลังมัน เมื่อดำลงได้น้ำช่วงเวลาที่นานกว่าทั่วไปก่อนที่มือนั่นจะหลุด อาจจะนานกว่าเมตคายีนาหลายคนที่เริ่มฝึกครั้งแรก

ส่วนน้องชายอย่างโลอัคหายออกมาเงียบๆ คนเดียวที่นอกแนวปะการังเมื่อฝึกเสร็จและพบเข้ากับอะคูลาก่อนจะถูกช่วยไว้ด้วยโทลคุนตัวใหญ่ เรื่องราวหลังจากนั้นถูกเก็บเงียบ โลอัคแอบออกมาหาโทลคุนตัวนี้ที่มีครีบหายไปด้านหนึ่งอยู่หลายชั่วโมงตลอดสามวันที่ผ่านมาจนสุดท้ายเมย์ไรยากับโทรักก็จับได้

"นั่นพญาคาน เจ้าไม่ควรโลอัค" โทรักท้วงเพื่อนของตัวเองทันทีที่กลับมานั่งคุยกับแถวชายหาด

"ทำไม เขาช่วยชีวิตข้าไว้"

"ท่านพ่อจะโกรธเจ้ามาก เจ้าซาเฮย์ลูหรือยัง"

"ยัง"

"ดีแล้ว ถอยออกมาเสียโลอัค"

"เขาช่วยชีวิตข้า"

เมย์ไรยามองเพื่อนอารมณ์เสียเดินจากไปโดยทำอะไรไม่ได้เมื่อทุกอย่างที่จะเกิดหลังจากนี้มีเพียงโลอัคกับพญาคานเท่านั้นที่เลือกเส้นทางของพวกเขา

โลอัคที่ทั้งสับสน โกรธ ไม่เข้าใจ จึงตัดสินใจออกมากลางดึกร้องเรียกหาพญาคานโดยไม่รู้เลยว่าโทรักและเนเทยัมตามออกมาด้วย ภาพของการสานสัมพันธ์พี่น้องอยู่ในสายตาของลูกชายโอโลเอทานแต่ก็ขัดอะไรไม่ได้ในเมื่อโลอัคถูกเลือก เอวาตัดสินใจแบบนี้ การตัดสินใจถูกำหนดไว้แล้ว

เมื่อเช้าวันใหม่มาถึงวันของการทดสอบสุดท้ายของโทรักเพื่อกลายเป็นนักล่าอย่างเต็มตัวเช่นเดียวกับเรื่องโลอัคเกับพญาคานก็ไปถึงหูโตโนวารีเช่นกัน

โทรักผ่านการทดสอบสุดท้ายแต่ก่อนจะได้เข้าพิธีอันสมเกียรติก็ถูกเรียกมาที่มารุยของหัวหน้าเผ่าพร้อมกับโลอัค เนเทยัมและเมย์ไรยา เจคก็อยู่ด้วยเมื่อก้าวมาถึงน้ำเสียงเยือกเย็นของโอโลเอทานก็ดังขึ้นทันที

"โทรัก เจ้าปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เจ้าให้เขาซาเฮย์ลูกับพญาคาน"

คนถูกตำหนิทำได้พียงก้มหล้ารับผิดเท่านั้นต่างจากโลอัคที่ยังดูสับสนและโกรธ

"ข้าผิดหวัง โทรักเจ้าด้วยเมย์ไรยา"

"ท่านพ่อ" เสียงสั่นเครือของลูกสาวคนโต

"พญาคานช่วยชีวิตข้าไว้"

"โลอัคเงียบ"

เจคสั่งออกมาเมื่อเห็นว่าคำพูดนั้นมีแต่จะทำให้สถานการณ์แย่ลง ในยุคแรกเริ่มโทลคุนต่อสู่ฆ่ากันเองเพื่อแบ่งแย่งพื้นที่ก่อนพวกเขาจะรู้ว่าการฆ่ามีแต่จะนำการฆ่าครั้งต่อไปไม่จบสิ้นมีแต่สูญเสีย พวกเขาเลยตัดสินใจเลือกทางที่สงบจะไม่มีการฆ่าฟันเกิดขึ้นอีกต่อไป จนการไล่ล่าเหล่าโทลคุนเริ่มด้วยคนบนฟ้า มีการสูญเสียเกิดขึ้นมากมาย พญาคานรวบรวมพี่น้องของเขาออกไปสู้กับคนบนฟ้า สงครามครั้งนั้นนำเพียงแค่การสูญเสียเท่านั้นสุดท้ายก็ถูกขับไล่ออกจากฝูงให้อยู่ตัวเดียวตั้งแต่นั้นมา

"เขาไม่ผิดเสียหน่อย พวกคนบนฟ้าต่างหากที่ผิด"

"ผิดวิถีของโทลคุน"

เสียงของหัวหน้าเผ่าดังขึ้นเรื่อยๆ จนเจคต้องเขามาแทรกเพราะเมย์ไรยาที่สั่นเทาโทรักที่ก้มหน้ากลั้นน้ำตา คุกเข่าลงข้างคนรักวางมือลงบนไหล่พร้อมกับสื่อสานผ่านทางสายตาและคำพูด

"โลอัคถูกเลือกโดยโทลคุน แม้จะเป็นพญาคาน เขาถูกเลือก เอวาคงต้องการให้เป็นแบบนั้น"

"มาเจค"

"เราแก้ไขอะไรอะไรไม่ได้แล้ว พวกเขาร่วมจิตวิญญาณ"

ก่อนจะได้มีโอกาสจบบทสนทนานี้หรือเริ่มพิธีสำคัญของโทรักเสียงแตรก็ดังขึ้นพร้อมกับหนึ่งเมตคายีนาที่เดินมาพร้อมกับสีหน้าเคร่งเครียด

"หมู่บ้านทางตะวันตกโดนคนบนฟ้าโจมตี มีคนล้มตายเช่นเดียวกับโทลคุน"

"เรียกประชุมเดี๋ยวนี้"

"เมย์ไรยา โทรักไปหาน้องเจ้า ฝากให้ชาวบ้านดูแล"

นักล่าทุกคนถูกเรียกรวมตัวที่ประชุมประจำรับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นและวางแผนการต่อสู้ อาวุธประจำตัวแต่ละคนพร้อมมือก่อนทุกคนจะประจำที่หลังซูรัคโดยมีเจคอยู่บนหลังโทรุคเหมือนอย่างเคยต่างที่ครั้งนี้ลูกๆ ของเขาจะอยู่ในสนามรบด้วย เมย์ไรยาอยู่บนอิกรานบินอยู่ไม่ไกลเช่นเดียวกับเนเทยัมและโลอัค ส่วนโทรักประจำอยู่บนหลังซูรัคข้างพ่อตัวเอง

เรือเหล็กลำโตเช่นเมื่อเก้าปีก่อนต่างกันที่ครั้งนี้ชาวเมตคายีนามีประสบการณ์มากขึ้นแต่ก็ยังคงต้องสู้กับปืนอัตโนมัติและนาวีร่างอวตารที่น่าจะถูกฝึกมาอย่างดี การตะลุมบอนเกิดขึ้นพร้อมกับความวุ่นวายก่อนที่เจคจะสังเกตเห็นโลอัคร่วงไปอยู่ที่ดาดฟ้าเรือพร้อมกับเนเทยัมที่กำลังจะลงไปช่วยน้องชาย

"เมย์ไรยาคุ้มครองน้องเจ้าให้ดี"

"เข้าใจแล้วค่ะ"

เจคร่อนโทรุคไปให้ใกล้ดาดฟ้าเรือก่อนจะกระโดดตามลงไปมุ่งหน้าไปหาโลอัคที่นอนจมกองเลือด

"ช่วยน้องชายข้าที"

เจคจับร่างกายคนบาดเจ็บพลิกไปพลิกมาก่อนจะพบว่าเป็นเพียงแผลเฉียดที่ต้นขาต้องห้ามเลือดและพากลับหมู่บ้าน สายรัดที่ติดมาด้วยถูกนำมาใช้พันเหนือแผลดังกล่าวโดยมีโตโนวารีคุ้มกันให้โดยไม่ต้องร้องขอ

"เนเทยัมกดแผลน้องเจ้าไว้"

"อ้าา เจ็บ"

"อดทนหน่อยพี่เจ้าจะพากลับมารุย ให้โรนัลดูแผล ข้าต้องอยู่ที่นี่"

เมื่อเชื่อมกันด้วยสายสัมพันธ์ราวกับว่าเขารู้ว่าโลอัคต้องการความช่วยเหลือทันทีที่โอมาติกาทั้งสามคนออกจาดาดฟ้า พญาคานก็กระโดดฟาดบนเรือกวาดเกี่ยวทุกอย่างให้พังสิ้น โทลคุนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดมากกว่าที่พวกเราจะหยั่งรู้ ส่วนหัวที่แข็งแรงถูกใช้เบี่ยงเบนวิถีการโจมตีจากเครื่องมือคนบนฟ้ารวมถึงป้องกันกระสุนก่อนจะกลับลงไปในน้ำและโจมตีเรือจากด้านล่างและด้านข้างจนมันเริ่มแตกเป็นเสี่ยงๆ

เนเทยัมอุ้มน้องชายไว้ในอ้อมแขนขณะบังคับอิกรานให้กลับไปที่หมู่บ้าน ในใจก็นึกห่วงอาวนุงที่ยังอยู่ในสนามรบแต่ก็รู้ดีว่าฝีมือของอีกคนนั้นเก่งกาจไม่แพ้ใคร

เมื่อวางน้องชายลงที่มารุยเรียกโรนัลมาเพื่อดูอาการ พี่คนโตของบ้านก็วิ่งหยิบเครื่องมือสื่อสารเพื่อเตรียมติดต่อกลับไปหาครอบครัวทันทีที่ทราบว่าโลอัคปลอดภัย โรนัลและศีเรยาตั้งใจรักษาและดูแลแผลของโลอัคอย่างมีสีสมาธิแม้ว่าศีเรยาเองจะมีน้ำตารื้นพร้อมกับความกลัว

"น้องเจ้าจะไม่เป็นไรแต่เขาต้องนอนและห้ามลงน้ำไปสักพัก"

"ขอบคุณท่านมาก"

เมื่อติดต่อกลับหาครอบครัวเล่าเหตุการณ์และอาการของโลอัค แม่ฟังดูสติแตกและเป็นกังวลแต่ก็มีพ่อคอยปลอบอยู่ข้างๆ เนเทยัมจึงไม่เป็นห่วงมากนัก

"มาเจคล่ะเนเทยัม"

"ยังไม่กลับมากันเลยครับ"

สองชั่วโมงผ่านไปเล่านักรบก็กลับมาพร้อมมาถึงอะวาอัตลู แต่สิ่งที่น่าตกใจคือร่างของอาวนุงที่ถูกโตโนวารีอุ้มอยู่และวิ่งไปที่มารุย เช่นเดียวกับเนเทยัมที่วิ่งตาม

"เขาถูกยิงที่หน้าท้อง ข้าพยายามที่สุดแล้วแต่เขาจะฟื้นหรือไม่"

ซาฮิคอย่างเจคทำให้อาวนุงทรงตัวโดยมีเนเทยัมยืนลังเลอยู่หน้ามารุยลังเลว่าควรจะกลับไปหาน้องชายหรืออยู่ตรงนี้คอยดูอาวนุง

"ข้าจะไปดูโลอัคให้ เขาคงหลับอยู่ ฝากพี่ชายข้าด้วยเนเทยัม"

"ขอบคุณ"

เนเทยัมเดินเข้าไปนั่งพื้นที่ว่างข้างๆ อาวนุงที่ยังคงสลบอยู่ตั้งแต่มาถึงโดยมีโรนัลอยู่อีกฝั่งเฝ้าดูอาการลูกชายพร้อมกับเจคที่เตรียมสมุนไพรสำหรับคนเจ็บ

"เขาพูดถึงเจ้าตลอด เก็บรักษาทุกอย่างที่เจ้าส่งมาให้"

 

หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปคนที่บาดเจ็บหนักยังคงไม่ลืมตาขึ้นมาต่างจากโลอัคที่ร่างกายกลับมาหายดีเหลือเพียงรอให้แผลหายก่อนจะกลับลงน้ำได้ เนเทยัมแวะเวียนมาเยี่ยมคนเจ็บทุกวันเวลาเดิม โรนัลจึงฝากหน้าที่ให้นาวีหนุ่มดูแลลูกชายตัวเองขณะนางออกไปล่าสัตว์ มือสีน้ำเงินเข้มวางลงที่กลางอกอาวนุงปล่อยให้มันขยับตามการหายใจรับรู้ถึงจังหวะที่เต้นอยู่ภายในสิ่งที่บอกว่าเขายังมีชีวิต

"หลับนานไปแล้ว ข้าแถบจะฝึกซูรัคเองโดยไม่ต้องให้เจ้าสอนแล้ว"

"โทรักได้รับสายคาดอกแล้ว เขาสำเร็จแล้ว เจ้าน่าจะได้เห็น"

"ตื่นมาคุยกับข้าสิ เจ้าบอกว่าจะพาข้าไปอ่าวบรรพบุรุษอีก"

"ข้าไม่ผิดคไพูดหรอก"

"อาวนุง!"

"จากตรงนี้เจ้างามเหลือเกิน"

"ข้าจะไปตามซาฮิค"

ก่อนที่จะได้ลุกมือของคนที่เพิ่งฟื้นก็รั้งไว้เสียก่อน สองมือและสายตาสองคู่ประสานกัน รอยยิ้มอย่างจริงใจถูกแลกเปลี่ยนก่อนที่หน้าผากทั้งสองคนจะประจบกัน

"อยู่กับข้าสักพักเถิด"

เมื่อถูกปล่อยจากอ้อมกอดเนเทยัมก็วิ่งไปตามซาฮิคทันทีพร้อมกับส่งคนไปบอกข่าวโรนัลและศีเรยา ความเจ็บที่หน้าท้องลดลงแล้วเหลือเพียงอาการอ่อนเพลียเพราะไม่ได้ขยับตัวนาน

อาวนุงลุกขึ้นจัดการตัวเองก่อนออกมาเดินตามหานาวีป่าที่หายตัวตั้งแต่ซาฮิคกลับไป ถามไถ่ผู้คนที่เจอว่ามีใครพบเห็นเนเทยัมไหมก็ไม่มีใครตอบได้จนเจอเมย์ไรยาที่เล่นพร้อมให้อาหารเพฟี อิกรานของนางอยู่บนชายหาด

"เมย์ไรยา"

"ข้าเห็นเจ้า ดีใจที่เจ้ากลับมาแข็งแรง"

"ข้าเห็นเจ้า"

"ตามหาเนเทยัมหรอ"

"ใช่"

"เขาพาอิกรานออกไปได้สักพักแล้ว"

"ขอบใจ"

คนที่ตามหาไม่อยู่อาวนุงจึงหันมาฝึกอาวุธแทน ขยับกล้ามเนื้อร่างกายหลังจากนอนหลับอยู่หลายวันก่อนจะได้ยินเสียงกระพือปีกดังใกล้เข้ามาเรื่อย เนเทยัมลงจากอิกรานเดินตรงมาหาคนที่กำลังฝึก

"ประลองกับข้าไหม"

"ข้าไม่ได้ฝึกมาหนึ่งอาทิตย์ ถ้าเจ้าแพ้ไม่ข้ออ้างแล้วนะ"

"ถ้าเจ้าแพ้ก็อย่าใช้มันเป็นข้ออ้างแล้วกัน"

มีดที่พกไว้ตลอดถูกโยนไว้บนพื้นทรายแทนที่ด้วยหอกไม้สำหรับการฝึก สองคนเตรียมท่าสู้เผชิญหน้ากันเป็นเนเทยัมที่บุกก่อน เสียงไม้กระบทบกันไปมารวมถึงการชกต่อย

การฝึกเข้มขึ้นเช่นเดียวกับความเร็ว ฝีเท้าที่ถูกไล่ต้อนฝีเท้าคนต้อนผลัดกันไปมา พร้อมกับเสียงร้องเมื่อหอกไม้ฟาดเข้าที่แผ่นหลังของอาวนุงเช่นเดียวกับเนเทยัมที่ถูกฟาดที่ขา

อาวุธทั้งคู่ถูกอีกฝ่ายปลดจนเปลี่ยนมาเป็นการสู้ตัวเปล่า แลกหมัดแลกแข้งขาก่อนจะล้มคลุกไปกับผืนทรายแต่ก็ยังไม่รู้ผลจนกระทั่งเนเทยัมพลิกตัวและคร่อมตัวคู่ต่อสู้ไว้ได้ร่างได้สำเร็จ

"Oel ngati kameie ma Ao'nung"

"Ma Neteyam"

 

ในที่สุดอาวนุงก็รู้สึกกลับมาแข็งแรงดังเดิมและทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ด้วยการพาเนเทยัมมาที่อ่าวบรรพบุรุษอีกครั้ง โดยตั้งใจว่านี่จะเป็นที่เขาและเนเทยัมจะกลายเป็นคู่กันต่อหน้าเอวาตามธรรมเนียม

นาวีทั้งคู่เชื่อมสายสัมพันธ์เพื่อรับฟังและรู้สึกถึงบรรพบุรุษผ่านต้นไม้ใต้น้ำเหมือนอย่างเคยก่อนอาวนุงจำว่ายนำไปยังพื้นที่คล้ายชายหาดแต่ว่าเป็นพื้นหินทอดยาวซ้อนขึ้นไปเป็นภาพงดงาม

มือหนาเกี่ยวผมที่เปียกลูของอีกฝ่ายไปด้านหลังพร้อมโน้มลงจูบคนที่ต้องการลมหายใจหอบถูกแก่งแย่งกันอยู่พักใหญ่ก่อนทั้งคู่จะเอื้อมไปจับคิวตัวเองมาอยู่ด้านหน้า ทันทีซาเฮย์ลูเกิดขึ้นทั้งคู่ก็รู้ตัวแล้วว่าจะเป็นคู่กันและกันตลอดไป

ความสุขสำราญทำให้ทั้งคู่เบียดร่างกายให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ลูบไล้เสียดสีจนในที่ผ้าที่ปกปิดร่างกายก็ถูกปลดเปลื้องออกไปพร้อมกัน เสียงครางหวานหูพร้อมหอบหายใจดังลั่นไปทั่วผืนน้ำกว้างใหญ่เมื่อร่างกายถูกเติมเต็มไปด้วยแกนกายร้อนของอีกฝ่าย

อาวนุงมองภาพตรงหน้าไม่วางตาขณะที่ขยับร่างกายไปด้วย โอมาติกายาหนุ่มสวมสร้อยคอที่เขาเป็นคนให้งดงามเหมือนภาพฝันที่ไม่อาจเป็นจริงแต่รู้ดีว่านี่คือความจริงเมื่อมือคู่นั้นจิกลงบนไหล่แคบเพื่อระบายอารม์

เมื่อรู้ตัวว่าใกล้ถึงจุดสูงสุดเพราะมือหนาที่ขยับขึ้นลงเพื่อช่วยเขา เนเทยัมจึงแนบหน้าผากทั้งคู่เข้าด้วยกันเอ่ยชื่ออีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาพร้อมกับจูบอันหวานซึ้ง คืนนั้นคู่ชีวิตทั้งสองราวกับสาบานตนต่อหน้าเอวาหลับไปในอ้อมกอดกันและกันก่อนะกลับไปที่อะวาอัตลู

Notes:

* No Beta read *

Series this work belongs to: